สงสัยไหมนะครับ ว่าเจดอน Sancho เพราะอะไรถึงกล้าวัดดวง ย้ายออกจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาอยู่โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ในประเทศที่เขากล่าวภาษาเยอรมันมิได้เลยด้วย
ว่ากันตามจริง ถ้าหากอยู่สิตี้ต่อ อนาคตก็คงจะแจ่มใส เพราะว่าเรือใบมีเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้ฝึกสอนที่พร้อมเปิดโอกาสดาวรุ่งสำหรับการลงสู่สนามอยู่แล้ว ยิ่ง Sancho เป็นคนประเทศอังกฤษ แถมเป็นเด็กปั้นจากอค้างเดมี่ แนวทางยิ่งแจ่มใสกว่าบุคคลอื่นอีก เพราะเหตุใด ซานโช่ ถึงต้องการย้ายออกจากสมาพันธ์ที่ใครๆก็ต้องการมาอยู่อย่างสิตี้ เพราะเหตุว่าอยู่นี่ คุณได้เงินเป็นอย่างมากแน่นอนด้วยเหตุว่าสิตี้มั่งมีขนาดนั้น
ยิ่งกว่านั้นยังได้โอกาสดีเยี่ยมที่กำลังจะได้แชมป์ทุกๆปี ไม่ว่าจะเป็นพรีเมียร์ลีก หรือยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกนั่นนะซินะ เจดอน ซานโช่ คิดเรื่องอะไรอยู่?ซานโช่ กำเนิดที่อังกฤษ แม้กระนั้นมีป๋า และก็แม่ เป็นคนตรินิแดด แอนด์ โตเบโก เขาเติบโตขึ้นที่ลอนดอน บ้านเขาอยู่ใกล้ๆกับสนามของคริสตัล พาเลซ ซานโช่ เป็นเพื่อนสนิทกับ รีส เนลสัน เด็กปั้นของอาร์เซน่อล ทั้งสองไปเตะบอลข้างทางร่วมกัน ตอน 7 ขวบ แล้วก็บังเอิญ มีผู้ฝึกสอนเยาวชน ชื่อ เซซี่ โฮล์ม-ลูอิส มองเห็นเข้าพอดิบพอดี
“ผมมีความรู้สึกว่าเด็กเหล่านี้ มันบ้าดี ตัวกระเปี๊ยกเดียว แม้กระนั้นทำให้คู่ปรับมองทื่อไปเลย” แมวมองกล่าว
รีส เนลสัน มีขึ้นอยู่กับอยู่แล้วทีนี้คืออาร์เซน่อล แม้กระนั้นซานโช่ ยังไม่มี โดยเหตุนั้น โฮล์ม-ลูอิส ก็เลยเชิญชวนให้ซานโช่ ไปเข้าอค้างเดมี่ของวัตฟอร์ด ตัวนักฟุตบอลขอความเห็นกับครอบครัวแล้ว ตอบตกลงที่วัตฟอร์ด ซานโช่ เติบโตขึ้นเรื่อยจนกระทั่งอายุ 11 เขาพาทีมเยาวชน ได้แชมป์แคว้น ในรายการ u-11 ชิงแชมป์ที่ลอนดอน และก็ได้รับความพึงพอใจจากชมรมอื่นๆมากเพิ่มขึ้น เชลซี กับ อาร์เซน่อล 2 กลุ่มใหญ่ในพรีเมียร์ลีก มีความสนใจอย่างเอาจริงเอาจังต้องการดึงตัวมาอยู่ด้วย แต่ว่าซานโช่ ตอบไม่ยอมรับไป
เขาเปิดเผยว่า ถูกใจชีวิตที่วัตฟอร์ดมากยิ่งกว่า เนื่องจากการประลองไม่ร้ายแรงเกินความจำเป็น ในวัยเพียงแค่สิบกว่าขวบ เขาอยากทำความเข้าใจไปเรื่อยโดยไม่พบแรงกดดันเกินความจำเป็นนัก สำหรับแมนฯสิตี้เอง ก็เป็นอีกสมาพันธ์ที่พอใจซานโช่สิ่งเดียวกัน รายงานของแมวมองแมนฯสิตี้ ในปี 2011 เขียนถึงซานโช่เอาไว้ว่า “ที่วัตฟอร์ด เขาเป็นดาวซัลโวของชมรมทุกปี ที่ลงเล่น ไม่ว่าจะเลื่อนมาเล่นรุ่นไหน เขาก็เป็นดาวซัลโวเสมอ”
“เขาพาวัตฟอร์ด เอาชนะทั้งยังอาร์เซน่อลแล้วก็เชลซีได้ด้วยตัวเองผู้เดียว หากแม้เพื่อนพ้องร่วมกลุ่มจะแย่มากก็ตาม”
แม้กระนั้น ณ ในตอนนั้น ซานโช่ ยังต้องการอยู่วัตฟอร์ด ทำให้แมนฯสิตี้ รอโอกาสถัดไปก่อน เวลาผ่านไป จนถึงซานโช่ อายุ 14 โอกาสนี้ เขาเซ็นสัญญากับเอเยนต์ส่วนตัว ชื่อ เอเมก้า โอบาซี่ ให้เข้ามาดูแลเรื่องสิทธิประโยชน์ในด้านมุมต่างๆฃ โอบาซี่ เป็นเอเยนต์ของนักฟุตบอลดังผู้คนจำนวนมาก ทั้งยังอเล็กซ์ อิโม้บี้, เชยี่ โอโจ รวมถึง รีส เนลสัน คู่หูของซานโช่ด้วย
แมนฯสิตี้ รู้ว่าสำหรับเพื่อการสนทนากับนักฟุตบอลเยาวชน ผู้ที่เป็นคีย์แมนที่สุดเป็นเอเยนต์ เพราะเหตุว่านักฟุตบอลคนไม่ใช่น้อย ไม่อาจจะตกลงใจได้ด้วยตัวเอง เนื่องจากแต่ละกลุ่มก็มีจุดเด่นเท่าๆกัน แต่ว่าถ้าหากมีข้อแนะนำดีๆจากเอเยนต์ พวกเขาก็จะทราบได้ว่าควรจะไปอยู่กลุ่มไหน มีนาคม 2015 ก่อนที่จะซานโช่จะแก่ครบ 15 ปีเต็ม แมนฯสิตี้ ติดต่อไปพบเอเมก้า รวมทั้งมอบเงินกินเปล่าให้เอเยนต์ 200,000 ปอนด์ แล้วหลังจากนั้นก็ยินดีจ่ายค่าตอบแทนให้วัตฟอร์ด 150,000 ปอนด์ โดยมีอ็อปชั่นระบุว่า ถ้าเกิดซานโช่ลงเล่นอาชีพครบ 10 เกม ค่าตอบแทนจะเพิ่มเป็น 500,000 ปอนด์ และมอบเงินโบนัส 10% จากแนวทางการขายซานโช่ คราวถัดไป ให้กับวัตฟอร์ดอีกต่างหาก
ข้อเสนอแนะนั้นอยู่ในระดับที่โอเค วัตฟอร์ด ตอบตกลงเป็นระเบียบ ต่อจากนั้นเอเมก้า ก็ได้ไปชักชวน ซานโช่ และก็ครอบครัว โดยทำให้เห็นว่า การไปอยู่แมนฯสิตี้ มีแม้กระนั้นจุดเด่น แล้วก็วิถีทางประสบผลสำเร็จ อย่างไรก็ผ่องใสกว่าวัตฟอร์ดแน่นอน ในที่สุด ด้วยข้อแนะนำจากเอเยนต์ ซานโช่ ก็เลยย้ายไปอยู่อะคาเดมี่ของแมนฯสิตี้เป็นที่เป็นระเบียบเรียบร้อย
ที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่จริงแล้ว จะมีการว่าจ้าง หน่วยงานอิสระแห่งหนึ่ง ทำพินิจพิจารณาการใช้โซเชียล มีเดีย ของนักฟุตบอลอค้างเดมี่ของตน ก่อนที่จะเซ็นสัญญาเข้ามา การเปลี่ยนแปลงในโซเชียลเน็ตเวิร์ก อีกทั้ง Facebook, IG และก็ Twitter มันเพียงพอจะบอกลักษณะนิสัยได้ ซึ่งถ้าหากผู้เล่นผู้ใดกัน ดูเหมือนมีความประพฤติที่เสี่ยง ชมรมจะได้ตัดชื่อทิ้งไป ไม่เซ็นสัญญามาอยู่ด้วย ด้วยเหตุว่าในแวดวงบอล สิ่งที่จำเป็นไม่แพ้ฝีเท้า เป็นเรื่องของทัศนคติสำหรับการดำเนินชีวิต ผลของการวิเคราะห์โซเชียลเน็ตเวิร์กของเจดอน ซานโช่ กล่าวว่า “เขาเป็นผู้ที่นึกถึงตนเองเป็นหลัก และก็ พอใจเรื่องของความโด่งดัง”
“เขาถูกใจการเข้าสังคม รวมทั้งถูกใจแฟชั่น ถูกใจการแต่งตัว”
“มีการโพสต์ที่ไม่เหมาะสมหลายสิ่งหลายอย่าง ซึ่งบางทีอาจจะเปลี่ยนเป็นข้อบกพร่องให้เขาโดนสื่อมวลชนจู่โจมได้ในอนาคต”
อย่างไรก็แล้วแต่ แม้ว่าการพินิจพิจารณานิสัยจะเป็นแบบงั้น แต่ว่า ความชำนาญส่วนตัวของซานโช่มันเก่งเกินความจำเป็นที่จะไม่มีความเอาใจใส่ให้สมาคมอื่น โดยเหตุนี้สิตี้ ก็เลยยอมเสี่ยง คว้าซานโช่มาครอบครองสุดท้าย เพียงพอมาอยู่สิตี้ ซานโช่ โชว์ฟอร์มได้เหนือชั้นมากมายๆด้วยวัยเพียงแค่ 16 ปี ในฤดูกาล 2015-16 เขาได้ลงเล่นเอฟเอ ยูธคัพรอบชิงแชมป์ เป็นแจ้งกำเนิดได้ก่อนฟิล โฟเด้น เสียอีก แล้วในฤดูกาล 2016-17 ก็พาแมนฯสิตี้ เข้าชิงเอฟเอ ยูธคัพอีกรอบ โดยพบกับเชลซี ที่มี เมสัน เมาท์, แทมมี่ อับราฮัม แล้วก็ คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย ถึงแม้แมนฯสิตี้จะแพ้ไปในเกมนั้น แม้กระนั้นกิตติศัพท์ของเจดอน ซานโช่ ก็มีชื่อเสียงไปทั่ว ในฐานะเด็กอายุ 17 ที่รุนแรงที่สุดในประเทศอังกฤษ
“ สนใจเข้าร่วมเดิมพันฟุตบอล ufabet1688 คลิก ”
ไคดูน อัล-มูบารัก ผู้ครอบครองกลุ่มแมนฯสิตี้ พอใจซานโช่ เป็นการส่วนตัว รวมทั้งบรรดาแฟนคลับเรือใบก็ต้องการมองเห็นเขาก้าวขึ้นมาสู่กลุ่มชุดใหญ่ในอนาคตอันใกล้ สำหรับเป๊ป กวาร์ดิโอล่า เฮดผู้ฝึกสอนของกลุ่ม ก็มีแผนในการจะเบาๆปรับปรุงซานโช่ด้วยเหมือนกัน โดยในตอนปรีฤดูกาลก่อนเปิดฤดู 2017-18 ตั้งอกตั้งใจจะพานักเตะไปร่วมฝึกกับกลุ่มชุดใหญ่ทีแรกที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ในความนึกคิดของเป๊ป ก็เห็นว่าซานโช่ พึ่ง 17 เพียงเท่านั้น เบาๆเติบโตไปอย่างแน่วแน่จะดีมากกว่า อย่างไรเขาก็ได้โอกาสเลื่องลือได้แน่นอนที่แมนฯสิตี้
ผู้เล่นคนประเทศอังกฤษของสิตี้ เวลานั้นมีเพียงแค่ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง, ฟาเบียน เดลฟ์ แล้วก็ จอห์น สโตนส์ ถึงแม้ว่าจะแมนฯสิตี้ จะมีเงินจำนวนมากเพียงใด แม้กระนั้นก็เชื่อเถอะ ว่าแฟนคลับต้องการมองเห็นผู้เล่นอังกฤษจากอค้างเดมี่ ก้าวขึ้นมาสู่กลุ่มชุดใหญ่มากกว่าอยู่ดี ในมุมของสิตี้ ต้องการจะปรับปรุงซานโช่ไปอย่างเยือกเย็น แม้กระนั้นในมุมของตัวนักฟุตบอลเขากลับมิได้คิดอย่างงั้น ข้างหลังจบฤดูกาล 2016-17 แมนฯสิตี้ได้ชั้น 3 ในลีก มีแต้มห่างจากแชมป์เชลซี ถึง 15 แต้ม
ในช่วงปลายฤดู เวลาที่กลุ่มหมดลุ้นแชมป์ไปแล้ว ตัวซานโช่เองก็มุ่งมาดว่าเขาจะได้ลงสู่สนามกับกลุ่มชุดใหญ่บ้าง เนื่องจากผลงานดีเยี่ยมกับกลุ่มเยาวชน แต่ว่ากวาร์ดิโอล่าก็ยังไม่มอบโอกาสเลยแม้กระทั้งเกมเดียว ถึงนั่นเขาก็เริ่มมารู้สึกว่าอยู่แมนฯสิตี้ถัดไปอย่างงี้จะดีจังๆหรือ ขนาดกลุ่มไม่มีลุ้นอะไร เขายังมิได้สัมผัสเกมสักนาที แล้วอนาคต เขาจะได้ลงเล่นแบบงั้นหรือ ก็บางทีอาจจำต้องอยู่กับกลุ่มเยาวชนไปเรื่อยถึงแม้ว่าตัวเขาแน่ใจว่า พร้อมแล้วที่จะเล่นกับกลุ่มชุดใหญ่
แมนฯสิตี้ มิได้คิดเลยว่า นักฟุตบอลในอะคาเดมี่ของตนเอง จะคิดเรื่องย้ายกลุ่ม พวกเขาก็เลยมิได้ทำอะไรเป็นพิเศษเพื่อรั้งซานโช่เอาไว้ สมาคมยื่นข้อเสนอข้อตกลง 3 หมื่นปอนด์ต่ออาทิตย์ให้ซานโช่ พิเคราะห์ ซึ่งในมุมของสิตี้ กับเยาวชนอายุ 17 ปี จำนวนนี้ก็มากไม่น้อยเลยทีเดียวแล้ว ในเวลานั้นเอง ที่โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จากเยอรมัน รอจับตาเหตุการณ์อยู่เสมอ
ไม่ชาเอล ซอร์ค ผู้บริหารกลุ่มเสือเหลือง กำลังหาปีกความเร็วจัด เพื่อเอามาแทนที่อุสมาน เดมเบเล่ ที่ย้ายไปบาร์เซโลน่า เขาตาม แล้วก็เมื่อซอร์ค รู้ดีว่าแมนฯสิตี้ยื่นข้อเสนอค่าตอบแทน 3 หมื่นปอนด์ต่ออาทิตย์ให้ซานโช่ เขาเลยมีความคิดว่า เป็นช่องทางที่จะแก่งแย่งนักฟุตบอลมาครอบครอง เพราะเหตุว่าฝีเท้าของซานโช่ ก็คู่ควรที่กำลังจะได้รับค่าตอบแทนมากยิ่งกว่านี้ ไม่ชาเอล ซอร์ค ยื่นข้อเสนอ 4 หมื่นปอนด์ต่ออาทิตย์ให้ซานโช่ พร้อมมอบเงินกินเปล่า อีก 6 แสนปอนด์ฟรีๆหากซานโช่ เลือกจะย้ายมา เรื่องเงินที่มากกว่าก็เป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง แม้กระนั้นจุดที่สำคัญกว่า เป็นการพูดคุยกันกันตัวต่อตัว ของไม่ชาเอล ซอร์ค กับซานโช่
“สิ่งจำเป็นที่สุด สำหรับการพูดจากับนักฟุตบอล เป็นอย่าข้อตกลงในสิ่งที่คุณทำไม่ได้” ไม่ชาเอล ซอร์คเล่า
“พวกเราบอกเจดอนเลยว่า พวกเราไม่ข้อตกลงว่าคุณจะได้ลงเล่นบ่อยๆทุกเกมหรอกนะ”
“พวกเราบอกเขาเพียงแค่ว่า ถ้าเกิดเลือกจะย้ายมา มันจะได้โอกาสแน่ๆสำหรับคุณ พวกเราให้เขามองว่า ในไลน์อัพ 11 ตัวจริงของพวกเราแต่ละเกม พวกเราส่งผู้เล่นอายุน้อยกว่า 20 ปี ลงไปในสนามบ่อยครั้ง และไม่ใช่เพียงแค่เกมบอลถ้วยเพียงแค่นั้น แต่ว่าเกมใหญ่อย่างการพบบาเยิร์น มิวนิค หรือเกมแชมเปี้ยนส์ลีก พวกเราก็กล้าจะส่งเยาวชนลงในสนาม”
“และก็ถ้าหากเขาเลือกจะมาอยู่กับพวกเรา จะได้โอกาสได้ลงสู่สนามในขั้นสูงมากยิ่งกว่าอยู่ที่อังกฤษแน่ๆ”
ตามธรรมดาแล้วนักฟุตบอลอังกฤษจะไม่ค่อยกล้าออกมาจาก Safe Zone เป็นอยู่ในประเทศตนเอง ได้เล่นในลีกที่นิยมที่สุดอย่างพรีเมียร์ลีก ก็ดูเหมือนจะเป็นอะไรที่ปลอดภัยกว่า แม้กระนั้นซานโช่ ภายหลังจากขอคำแนะนำครอบครัว แล้วก็เอเยนต์ส่วนตัวแล้ว เขามีความรู้สึกว่า มันเป็นการพนันที่เขาคงจะทดลองดู เพราะเหตุว่าดอร์ทมุนด์เป็นสมาพันธ์ที่ดี ทุกคนรู้กันอยู่แล้ว นอกเหนือจากนั้นสำหรับแมนฯสิตี้แล้ว กล่าวถึงนักฟุตบอลจากอะคาเดมี่ที่ก้าวมาติดกลุ่มชุดใหญ่ได้ มีแทบจะนับหัวได้
ในรอบ 10 ปีให้หลัง มีเพียงแค่เคเลชี่ อิเฮียท้องนาโช่ผู้เดียว ส่วนผู้อื่นพวกจอห์น กุยเด็ตติเตียน หรือ เบ็น มี ก็ไม่เคยได้เล่นพรีเมียร์ลีกเลยสักนัดหมาย ก่อนโดนปลดปล่อยขายทิ้ง แมนฯสิตี้ เป็นกลุ่มเงินถุงใส่เงินถัง หากนักฟุตบอลไม่เข้มแข็งเพียงพอ ชมรมก็พร้อมยอมจ่ายเพื่อซื้อบิ๊กเนมเข้ามาเลย ด้วยเหตุนี้ตัวซานโช่ ก็เลยไม่มั่นใจว่า เขาจะได้โอกาสจริงๆกับแมนฯสิตี้หรือไม่ ใช่ การไปอยู่ต่างประเทศ ไปสู่ประเทศที่เขายังกล่าวภาษาท้องถิ่นมิได้ มันเกิดเรื่องยาก แม้กระนั้นในอีกมุมซึ่งก็คือความท้า
รวมทั้งจริงอยู่ ในประวัติศาสตร์ของดอร์ทมุนด์ ไม่เคยมีนักเตะอังกฤษ แม้กระทั้งผู้เดียว แล้วเพราะเหตุใด เขาจะเปิดฉากเป็นคนแรกมิได้ล่ะ? เมื่อตกลงใจได้โดยเหตุนี้ ซานโช่ ก็เลยเดินไปคุยกับเป๊ป กวาร์ดิโอล่า เพื่อไม่ยอมรับข้อเสนอแนะ 3 หมื่นปอนด์ของสมาพันธ์ รวมทั้ง การันตีว่าจะไม่ไปทัวร์อเมริกากับกลุ่มด้วย จริงๆเป๊ป ก็พากเพียรเหนี่ยวรั้งสุดกำลังเช่นกัน แม้กระนั้นซานโช่ตกลงใจไปแล้ว
“พวกเราต้องการให้เขารวมทั้งครอบครัวรู้ดีว่า พวกเรามีความมั่นใจและความเชื่อมั่นในตัวเขา เสมือนที่พวกเรามอบให้ฟิล โฟเด้น กับ บราฮิม ดิอาซ แต่ว่าในตอนท้ายแล้วเมื่อเขาไม่ต้องการที่จะอยู่ พวกเราจะบอกอะไรได้ล่ะ”
“พวกเราต้องการจะเบาๆปรับปรุงเขาขึ้นมาสู่กลุ่มชุดใหญ่ เป็นเขาอายุเพียงแค่ 17 เองนะ แนวทางณ์ของพวกเราเป็น พอใช้ได้ฝึกกับซีเนียร์ในกลุ่ม เขาจะได้ทดลองตนเองว่า เมื่อจำเป็นต้องพบกับฟูลแบ็กอาชีพ อย่างไคล์ วอล์กเกอร์ หรือ เบนจามิน เมนดี้ เขาจะเลี้ยงผ่านได้ไหม เขาจะได้พิสูจน์ตนเองว่า สกิลการเลี้ยงบอลของเขาสามารถเอาชนะฟูลแบ็กคนอื่นในพรีเมียร์ลีกได้หรือไม่”
“โน่นเป็นสเต็ปถัดไปที่พวกเราต้องการปรับปรุงเขา แต่ว่าเมื่อเขาเลือกจะไป มันก็จบเพียงแค่นั่น”
“พวกเราก็ขออำนวยพรให้เขาบรรลุความสำเร็จ แล้วก็หวังว่าวันใดวันหนึ่งพวกเราจะได้เจอะกันในรายการแชมเปี้ยนส์ลีก”
เมื่อ Sancho ตกลงใจแล้ว แมนฯสิตี้ กับดอร์ทมุนด์ ก็เลยคุยกันเรื่องค่าตอบแทน รวมทั้งสรุปจบที่ 8 ล้านปอนด์ ซึ่งหากคิดในทางดี สิตี้ก็ผลกำไรพอสมควรแบบเดียวกัน
สนับสนุนข่าวโดย animalgroomingshop